ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ล่าสุดได้มอบหมายให้ทุกสำนักงานต่างประเทศของ ททท.ติดตามและแจ้งข้อมูลความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของประเทศต้นทางมาทุก 2 สัปดาห์ รวมถึงแนวทางการเปิดประเทศว่าแต่ละประเทศมีนโยบายเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศเมื่อใด เพื่อให้ ททท.กำหนดแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อย่างถูกต้องตรงตามเป้าหมาย
“เราเลี้ยงดีมานด์นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อัดอั้นมาตลอด หลังวิกฤติโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ โดยบางตลาดได้มีการขายล่วงหน้าแล้ว แพ็คเกจเที่ยวเมืองไทยได้รับการตอบรับค่อนข้างดี อย่างตลาดจีนเที่ยวไทย รอเพียงรัฐบาลจีนอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้”
ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เล่าเสริมว่า ททท.ได้ตรวจสอบ “ดีมานด์นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ตลอดเวลาว่ายังมีความต้องการเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยหรือไม่ มีสูงขึ้นหรือลดลงอย่างไร อยากมาทำกิจกรรมอะไร และเที่ยวที่ไหนบ้าง โดยตรวจสอบอย่างละเอียดผ่านช่องทางออนไลน์ บริษัททัวร์ และสื่อต่างๆ พร้อมหาวิธีแปลงดีมานด์ให้เกิดการเดินทางจริงให้ได้!
อย่างประเทศเกาหลี ขณะนี้อากาศหนาวติดลบ 6 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวเกาหลีอยากมาเที่ยวหาดทรายชายทะเล และเพื่อให้เกิดการเดินทางจริง จึงมีการจัดทำ “ควอรันทีน” หรือกักตัวในรูปแบบต่างๆ เช่น “กอล์ฟ ควอรันทีน” โดยเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวเกาหลีจำนวน 41 คนเดินทางมาเล่นกอล์ฟที่สนามกอล์ฟอาทิตยาและท่องเที่ยวระยะยาวในไทยเป็นกลุ่มแรกแล้ว
“ตอนนี้ต้องดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคนมีเงิน มีศักยภาพในการใช้จ่ายเข้ามา ในระยะสั้นต้องหานักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้เจอ เหมือนกับกลุ่มที่พร้อมจะเดินทางมากักตัวและเที่ยวไทยภายใต้รูปแบบวิลล่า ควอรันทีน ที่โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ซึ่งต้องดูว่าจะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อย่างไร”
ฟาก ททท.สำนักงานมุมไบและนิวเดลี แจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวอินเดียสอบถามเรื่องการเข้ามาจัดงานแต่งงานในไทยแบบปิดโรงแรมเพื่อจัดงานโดยเฉพาะ จำนวน 2 คณะ คณะละ 200-300 คน โดยปกติใช้เงินครั้งละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท แม้จะยังไม่มีกำหนดเข้ามาเมื่อใด แต่แสดงให้เห็นว่ายังมีความต้องการที่จะเข้ามาเมืองไทย หากทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) อนุมัติให้โรงแรมทำ “แอเรีย ควอรันทีน” ได้ ก็สามารถอยู่ในบริเวณของโรงแรมได้เลย
ฉัททันต์ เล่าเพิ่มเติมว่า ประเด็นการฉีด “วัคซีน” นับเป็น “ตัวแปรสำคัญ” ในการตัดสินใจรับบุคคลและคณะนักท่องเที่ยว ททท.ได้หารือกับ ศบค.ชุดเล็ก ถึงแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับไปดูแนวทางและทำแผนออกมาโดยเร็ว เพื่อให้ ททท.กลับไปวางแผนดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้เร็วขึ้น พร้อมนำไปหารือกับภาคเอกชนท่องเที่ยวเพื่อออกขายแพ็คเกจท่องเที่ยวให้ตรงกับความต้องการ
“ตอนนี้ทาง ศบค.ได้ให้แนวทางแก่ สธ.ไปคิดเป็น 3 เฟส ได้แก่ 1.ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเป็นรายบุคคลหรือคณะจากประเทศต้นทาง จะเดินทางเข้าไทยได้อย่างไร ในกรณีที่ประเทศไทยยังไม่มีการฉีดวัคซีน 2.ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทางที่มีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายแล้ว จะเข้ามาไทยได้อย่างไร ในกรณีที่ประเทศไทยยังไม่มีการฉีดวัคซีน และ 3.ทั้งประเทศต้นทางและประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายแล้ว ทั้งหมดนี้ สธ.ต้องรีบสรุปรายละเอียดมาตรการโดยเร็ว”
ศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. กล่าวว่า ทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ซึ่งมีสมาชิก 200 กว่าสายการบินทั่วโลก ขณะนี้มี 42 สายการบิน รวมการบินไทย ไทยสมายล์ กาตาร์แอร์เวย์ส เอทิฮัดแอร์เวย์ส บริติชแอร์เวย์ส และเอมิเรตส์แอร์ไลน์ส ได้ตกลงทำ “IATA Travel Pass” ให้ผู้เดินทางลงทะเบียนยืนยันว่าฉีดวัคซีนแล้ว จากนั้นจะได้รับสิทธิ์ไม่ต้องไปตรวจเพิ่มก่อนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องมีเอกสารฟิต ทู ฟลาย ซึ่งจะเริ่มในเดือน มี.ค.นี้ และน่าจะเห็นนักเดินทางกลุ่มฉีดวัคซีนแล้วเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ต้องการ “ความชัดเจน” ของนโยบายภาครัฐเรื่องการผ่อนปรนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างจำกัดภายในเดือน มี.ค.นี้ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยทันไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวต้องการเวลาขายล่วงหน้า 4 เดือน แต่ถ้านโยบายมีความชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้ คาดจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยได้ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
อ่านเพิ่มเติม:https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/923941
22/05/2019
10/05/2021
27/06/2023
30/06/2023