ททท.เจาะท่องเที่ยววิถีใหม่ Lifestyle Travel ไทยเที่ยวไทยช่วยเศรษฐกิจหลังคุมโควิด-19 ได้

   ททท.ระดมไอเดีย 45 สำนักงานในประเทศ ส่องหาไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนไทยที่เปลี่ยนวิถีท่องเที่ยวแบบเว้นระยะห่างมากขึ้น ผุดโครงการ Lifestyle Travel@5ภาค พร้อมจับกระแสคนนิยมถ่ายภาพเซลฟี่ ทำโครงการ The Best Selfie in Thailand มอบรางวัลให้คนช่วยจุดกระแสเดินทาง หลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย

   นายกฤษณะ แก้วธำรงค์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เป้าหมายทางด้านเศรษฐกิจของตลาดในประเทศมุ่งเน้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ อาทิ สายการบิน โรงแรม บริษัทนำเที่ยว รถเช่า ให้กลับมาฟื้นตัวอย่างเร็วที่สุด หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 โดย ททท. ได้จัดทำโปรโมชั่นต่างๆ ร่วมกับพันธมิตร จัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และเกิดรายได้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมถึงชุมชน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศได้

   อย่างไรก็ตาม ได้มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในปีนี้ขึ้นมาอีก ททท.จึงได้ติดตามสถานการณ์โดยตลอด เมื่อการแพร่ระบาดเริ่มอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทาง รัฐบาลผ่อนคลายข้อกำหนดต่างๆ แล้ว ก็พร้อมที่จะนำโปรโมชั่นต่างๆ ออกมานำเสนอกับประชาชนในทันที

“วิถีการเดินทางท่องเที่ยวจากนี้จะเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวจะเปลี่ยนวิถีท่องเที่ยวใหม่ตามไลฟ์สไตล์หรือความชอบของตัวเอง และด้วยความระมัดระวังในการเดินทางท่องเที่ยวจึงหันมาขับรถเที่ยว การตั้งแคมป์ในสถานที่ทางธรรมชาติกำลังเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยว ตอนนี้มีผู้ประกอบการเปิดให้บริการหลายราย ในภาคกลางและภาคเหนือ มีให้เลือกทั้งแบบตั้งแต่เอาเต็นท์ไปกางนอนเอง หรือไปนอนแคมป์ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ที่ผู้ประกอบการจัดไว้ให้เลือกเยอะมาก ตกแต่งกันหลายรูปแบบ ตกกลางคืนก็มีกิจกรรม ปิ้งย่างบาร์บีคิว นอนดูดาว มีการแบ่งสัดส่วนอย่างดี แยกห้องน้ำจากกัน เป็นการเที่ยวแบบเว้นระยะห่าง ไม่แออัด สอดคล้องการท่องเที่ยววิถีใหม่”

   ขณะเดียวกัน ได้ประชุมร่วมกับสำนักงาน ททท. 45 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และจัดทำโครงการ Lifestyle Travel@5ภาค โดยภาคเหนือจะเจาะตลาดนักท่องเที่ยวสายลุย กลุ่ม Fan Club และ Sport Travel สร้างกระแสการเดินทางท่องเที่ยวผ่านการจัดกิจกรรม Event Marketing ในรูปแบบต่างๆ อาทิ งาน Amazing Northern Campsite งาน Romantic Music & Film Fest กิจกรรมตามรอยซีรีส์สายวาย "นิทานพันดาว" เป็นต้น

   ภาคอีสานเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มขับรถเที่ยว โดยนำเสนอกิจกรรมเทศกาลประเพณี (ฮีต 12 คอง 14) เพราะเป็นภาคที่มีประเพณีหลากหลาย สำหรับภาคกลาง เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้ชื่นชอบธรรมชาติ นำเสนอการท่องเที่ยวในรูปแบบแคมป์ปิ้ง หรือ Service Area ที่รองรับรถบ้านเคลื่อนที่ Camper Van หรือ Motorhome ภายใต้แนวคิด “Camping&Camper” และส่งเสริมการท่องเที่ยว 4 ปากอ่าวในภาคกลาง

   ส่วนภาคใต้เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ Fan Club กลุ่มผู้ชื่นชอบการขับรถเที่ยว มีกิจกรรมตามรอยซีรีส์ กิจกรรม Experience2Sea ล่องเรือยอชต์ ล่องเรือคาตามาลัน ที่พักแบบพูลวิลล่า เซิร์ฟบอร์ด ซัพบอร์ด ดำน้ำ ด้านภาคตะวันออกจะจับไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวกลุ่ม Food Lover กลุ่ม Sport Lover และกลุ่ม Music Lover

   พร้อมกันนี้ มีโครงการที่จะเปิดตัวทันทีที่รัฐบาลผ่อนปรนให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ คือ The Best Selfie in Thailand ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคนี้ที่ไม่ว่าไปเที่ยวไหนก็มักหามุมถ่ายรูปสวยๆ เมื่อใครเห็นที่ไหนสวยก็จะมักเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวนั้นตาม ททท.จะเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมกันแชร์ภาพถ่ายเซลฟี่กับสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในประเทศ โดยจะจัดรางวัลแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ ช่วยสร้างกระแส และกระตุ้นให้คนออกเดินทาง

   นอกจากนั้น มีแคมเปญ "หิมพานต์โปรเจกต์" ดึง #หิมพานต์มาร์ชเมลโล่ ประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวไทย โดยได้หารือกับครีเอเตอร์ "twofeetcat" ผู้ตั้งแฮชแท็ก #หิมพานต์มาร์ชเมลโล่ นำคาแรกเตอร์น้องๆ สัตว์หิมพานต์ที่ส่วนใหญ่มีตามวัดต่างๆ ในประเทศไทย มาช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว เช่น จัดทัวร์ชมน้องหิมพานต์ในจังหวัดต่างๆ เป็นการต่อยอดไอเดียของคนรุ่นใหม่ ที่ได้ช่วยกันทำให้ศิลปวัฒธรรมไทยในบางจุดที่เคยถูกมองข้าม ให้ได้รับความสนใจและสามารถจับต้องได้

   อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ที่รัฐบาลยังขอความร่วมมือให้เดินทางเท่าที่จำเป็น เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้วในระยะแรก ททท.จะส่งเสริมให้เดินทางภายในจังหวัด หรือข้ามจังหวัดที่ติดกัน ภายใต้แนวคิด "เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ผ่อนคลาย ใกล้บ้านเรา" เพราะคนในจังหวัดรู้สถานการณ์การระบาดในพื้นที่เป็นอย่างดี สามารถหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงได้ จากนั้นจึงค่อยขยายไปสู่จังหวัดใกล้เคียง เมื่อสถานการณ์ปกติค่อยกลับมาเที่ยวข้ามภาคกันอีกครั้ง ซึ่งการขับรถเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นนั้น ททท.จะนำเสนอจุดแวะกิน ช็อป เที่ยว ระหว่างทาง ก่อนถึงจุดหมายให้ด้วย

“สิ่งสำคัญของการท่องเที่ยวจากนี้ไป นักท่องเที่ยวต้องเที่ยวภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ใส่หน้ากาก พกเจลล้างมือ เลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA ควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด เช็กอินไทยชนะ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย”

อ้างอิง:

https://www.thairath.co.th/news/local/2020327