Dubai ไปทำอะไรดี?

13/07/2019 15:48

Dubai ไปทำอะไรดี? 

เที่ยวตะวันออกกลางเมืองน่าอยู่และมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่าง ‘รัฐดูไบ (Dubai)’ ตั้งอยู่บนชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 16 เมตร ทัวร์ดูไบเมืองสุดไฮเทคที่เต็มไปด้วยของหรูหรา บ้านเมืองทันสมัย ถูกโอบล้อมด้วยทะเลทรายกว้างใหญ่ทุกทิศทาง ทำให้อากาศส่วนใหญ่ของที่นี่แห้งแล้งและมีอุณหภูมิมาก ซึ่งสูงสุดถึง 47 องศาเซลเซียส แต่กลางคืนจะมีอากาศไม่ร้อนเท่าไหร่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส ตามอากาศทะเลทรายค่ะ

การเปิดประสบการณ์แปลกใหม่กับทัวร์ดูไบเที่ยวตะวันออกกลางชมวัฒนธรรมชาวอาหรับและบ้านเมืองของเศรษฐีแดนน้ำมัน เราจะต้องใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมงเศษ ซึ่งเวลาท้องถิ่นดูไบช้ากว่าไทยประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองแห่งความมหัศจรรย์ที่เคยเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง แต่ตอนนี้กลายเป็นเมืองศูนย์รวมความมั่งคั่งทุกอย่างมีตึกสูงระฟ้าทันสมัยให้นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ได้ชมอย่างตื่นตาตื่นใจ ส่วนไฮไลท์เด็ดนั้น ทาง#WorldAisatrips ก็นำมาฝากคุณอีกเช่นเคยจ้าาาา

 

มาดูไบต้องเที่ยวตึกเบิร์จคาลิฟา

มาเที่ยวตะวันออกกลางหรือมาเที่ยวดูไบทั้งทีต้องแวะชมความอลังการที่แท้ทรูกับแกรนด์มอส ขึ้นตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) หรือตึกเบิร์จดูไบ สูงตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองดูไบซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมาก ตึกสูง 446 เมตร เหมือนกับนั่งอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆเชียว ภายในหรูหราเป็นอาคารแบบมิกซ์ยูสศูนย์รวมร้านอาหาร โรงแรมหรู คอนโด ออฟฟิศสำนักงาน สระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้น 78 สุเหร่า หอดูดาว ใช้งบก่อสร้างสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีคนที่สองแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเป็นเจ้านครอาบูดาบีอย่าง เคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด บิน สุลฏอน อัลนะฮ์ยาน (Khalifa bin Zayed Al Nahyan) ในส่วนสถาปัตยกรรมนั้นผสมผสานความเป็นอิสลามเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ทีเด็ดสุดคงต้องยกให้ลิฟต์ขึ้นตึกเบิร์จคาลิฟาที่เร็วที่สุดในโลกครอบครองความเร็ว 65 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือ 18 เมตร/วินาที สาบานเถอะ ! อันนี้ขึ้นลิฟท์หรือขึ้นเครื่องว้าปกันแน่ (555+) และยังครองตำแหน่งอาคารที่มีจำนวนชั้นมากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 162 ชั้น และยังครองอันดับตึกระฟ้าสูงที่สุดในโลกล้มอันดับหนึ่งอย่างอาคารไทเป 101

และหากนึกไม่ออกว่าขึ้นตึกเบิร์จคาลิฟาหรูยังไง ? สูงเสียดฟ้าแค่ไหน ?  คงต้องบอกว่าที่แห่งนี้เคยเป็นฉากแสดงในภาพยนตร์เสี่ยงตายสุด ๆ ของพระเอกบู๊ทอม ครูซ ในภาพยนตร์มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ปฏิบัติการไร้เงา ภาคที่ 4 ในฉากสุดลุ้น !! ขณะที่อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) หน่วยงาน IMF ไต่ตึกสูงที่ใช้ถุงมือไฮเทคในการปีนชวนลุ้น บิดเกร็ง หายใจไม่ทั่วท้องเชียว

 

มาดูไบต้องลุยทะเลทรายอาหรับ ขับรถจี๊บซาฟารีลุยทะเลทราย ขี่อูฐ

ใครที่ชอบความตื่นเต้นท้าทายเชิญทางนี้จ้าา ขับรถจี๊บซาฟารีตะลุยทะเลทรายอาหรับ ทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีพื้นที่ประมาณ 2,300,000 ตารางกิโลเมตร บนเนินทรายที่ทั้งสูงและต่ำสลับกัน ทั้งลื่น ทั้งชัน แต่ไม่ต้องกลัวคว่ำนะคะ เพราะว่าขับโดยผู้ชำนาญ เชี่ยวชาญซะไม่ว่าหลุมจะต่ำ เนินสูงจะแค่ไหน พี่แกไปหมดค่าาา แล้วภาพในอดีตกาลของคุณทั้งหมดจะมารวมกันตอนนี้ 5555 เพราะมันหวาดเสียวมากก ทุกอย่างแทบตีรวมกันหมด ทรายนี่คลุ้งตลบอบอวล ถ้านั่งหน้าข้างคนขับ หรือนั่งติดประตูจะทวีคุณความเสียวขึ้นไปอีก สนุกสนานซะจนนึกว่ากำลังถ่ายทำเรื่อง Fast & Furious อยู่ ดริฟมันส์เวออออร์

และเมื่อถึงที่หมายกลางทะเลทราย ความรู้สึกเมื่อกี้ก็หมดลง ความตะลึงได้เข้ามาแทน เพราะสวยมากกกกๆ ทรายละเอียดมาก คุ้มค่ากับการตะลุยผจญภัยมาสุดๆ ถ้ามาช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดินตัดเนินทรายจะเป็นอะไรที่แสนประทับใจมากเลยค่า

และมีอีกกิจกรรมคือ การขี่อูฐ มีอูฐอยู่หลายตัวมาก สามารถถ่ายรูปกันได้ตามใจชอบ ตอนขึ้นก็หวาดเสียวดี แต่พอขึ้นไปแล้วก็ไม่อยากจะลง นั่งฟินสบาย ได้ฟีลเหมือนในโปสเตอร์อาหรับ ที่มีคนขี่อูฐตามหาต้นกระบองเพชร อิอิ

ถือว่าเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรมาเก็บประสบการณ์ให้ได้ซักครั้งค่ะ มันส์แน่นอน ฟันธง!!

 

มาดูไบต้องไปดุน้ำพุแห่งดูไบ Dubai Fountain 

นี่คือ Dubai Fountain หรือ น้ำพุแห่งดูไบ ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลกกก มีความยาวกว่า 270 เมตร หรือประมาณสนามฟุตบอล 2 สนามรวมกันค่า *0* นึกภาพตามแล้วร้องหูววววกันใช่ไหมม ยังค่ะ ยังไม่หมด ได้ใช้น้ำจำนวน 83,000 ลิตร พุ่งขึ้นไปบนอากาศสูงเท่ากับตึก 50 ชั้น!! และสามารถมองเห็นจากที่สูงไกลถึง 200 ไมล์อีกด้วย ถุกออกแบบโดยบริษัท WET Design จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ออกแบบน้ำพุ Fountains of Bellagio ที่เมืองลาสเวกัสนั่นเอง น้ำพุที่นั่นว่าอลังการแล้ว น้ำพุดูไบนี้ขนาดใหญ่โตกว่าถึง 25% ใช้งบประมาณกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 7.2 พันล้านบาทเลยทีเดียว

น้ำพุสุดอลังการนี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบบุรจญ์คาลิฟา ใจกลางเมืองดูไบ รอบๆ เต็มไปด้วยตึกชื่อดังมากมาย และตึกเหล่านี้ก็เป็นสถานที่ดูโชว์น้ำพุยอดนิยมเลยล่ะค่า โดยเฉพาะหน้าห้างฯ คนจะมาดูเยอะมาก มีคนแอบกระซิบว่า สะพานระหว่างห้างฯ The Dubai Mall และ Souk Al Bahar เห็นชัดและมีคนน้อยกว่าด้วยแหละ งานนี้ก็ต้องหามุมดีๆ กันนะจ๊ะ

ในการแสดงนี้จะใช้ไฟทั้งหมด 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมเปิดเพลงเป็นจังหวะ จนเหมือนน้ำพุนั้นเต้นระบำอยู่ เพลินมากๆ การแสดงในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกันนะคะ แต่รับรองว่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน!

เริ่มชมได้ตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึงเที่ยงคืน โดยจะจะเริ่มทุกๆ ครึ่งชั่วโมง รอบละประมาณ 5 นาที มาวันไหนก็ได้ดู เพราะมีการแสดงทุกวัน แถมไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยจ้า

 

มาดูไบต้องไปดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Dubai Mall Aquarium 

เที่ยว Dubai Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกกกก  อยู่ในห้าง Dubai Mall ที่เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็นตู้กระจกอะคริลิกขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยค่า เพราะที่นี่มีอุโมงค์ให้เดินลอดใต้ท้องกระจก เปรียบเสมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ของปลาทะเล ปะการังเทียมขนาดใหญ่ที่เหมือนของจริงมาก สามารถมองเห็นสัตว์น้ำใต้ทะเลกว่า 33,000 ชนิด แบบพาโนรามาชัดๆ เต็มตากันไปเล้ยย ราวกับว่าได้เป็นนางเงือกว่ายน้ำอยู่ใต้ทะเล ฮิฮิ

และยังมีนกเพนกวิน แมวน้ำ ปลากระเบน ปิรันยา แมลงต่างๆ สัตว์เลื้อยคลาน และราชาจระเข้ที่ตัวใหญ่มว้าก อายุ 40 ปี ยาวกว่า 5 เมตร น้ำหนักถึง 750 กิโลกรัม!  การโชว์ให้อาหารปลาจากมือนักประดาน้ำ ท่ามกลางฝูงปลาหลายหมื่นตัว รวมทั้งฉลามด้วย! มีการแสดงความสามารถของสัตว์ ทุกๆ ชั่วโมง ใครสงสัยอะไรจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้และตอบคำถามของเราอยู่ทั่วพิพิธภัณฑ์เลยค่า เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่อลังการสมชื่อจริงๆ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ห้ามพลาดนะจ๊าา

 

มาดูไบต้องเล่นสกี ดูไบ Mall of the Emirates

อยากสัมผัสหิมะในเมืองทะเลทรายไหมคะทุกคนนน มาเที่ยวสกี ดูไบ แห่งแรกในตะวันออกกลางที่ห้าง Mall of the Emirates กันนนน ระดับดูไบนี่ทำได้ทุกอย่างจ้า ครั้งนี้ได้ยกสวนหิมะในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก! ขนาด 3,000 ตารางเมตรมาไว้กลางเมือง ถึงอากาศข้างนอกจะร้อนแค่ไหน แต่คนที่อยู่ในนี้เริงร่าท้าความเย็นกันอย่างสนุกสนาน เพราะทุกอย่างเหมือนจริงอย่างกับอยู่ในประเทศเขตหนาวเลยแหละ ทั้งถ้ำหิมะ ภูเขาหิมะ โดยหิมะที่นี่เกิดจากการปล่อยน้ำเย็นจากเพดานของโดม เมื่อน้ำเย็นปะทะกับสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด ก็ตกผลึกกลายเป็นหิมะนั่นเองจ้า

กิจกรรมก็มีมากมายทั้ง สโนว์บอร์ด, รถเลื่อนหิมะ, กระเช้าสกี, กลิ้งลูกบอลยักษ์, Snow Bullet และ สกี โดยแต่ละลู่จะมีความยาวและความลาดชันต่างกันไว้สำหรับหลายวัย หลายระดับ ส่วนใครที่ยังเล่นไม่เป็นก็มีคอร์สสอนนะคะ มีทั้งแบบส่วนตัว แบบหมู่ เข้าแคมป์เลยก็มี

และที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ช่วงเพนกวินพบปะประชาชนค่ะ  จะมีการแสดงของเพนกวินและการเดินขบวน ทั้งเพนกวินพันธุ์ gentoo และราชาเพนกวิน ที่เราจะได้เห็นกันแบบใกล้ชิด น่าร้ากกกกฝุดๆ หรือจะแวะพักความหนาวมานั่งจิบโกโก้ร้อนๆ ที่ Avalanche Cafe ถ้าหิว ภายในห้าง Mall of the Emirates มีร้านอาหารให้เลือกแบบนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว

การเดินทางนั้นก็มาง่ายนิดเดียว มาได้ทั้ง รถประจำทาง รถไฟใต้ดิน หรือ รถยนต์ โดยมีที่จอดรถฟรีให้มากกว่า 7,000 คันเลยค่า

 

มาดูไบต้องไปดูมัสยิด Sheikh Zayed

มัสยิดที่สวยที่สุดในโลกกกกกก งามสมกับตำแหน่งจริงๆ ค่า สวยจนต้องมอบมงให้ ใหญ่โตโอ่อ่าอลังการเกินจะบรรยาย ออกแบบได้อย่างสมบูรณ์แบบ สีขาวสะอาดตา และยังมีโคมไฟแชนเดอเลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยยย  ได้ถูกออกแบบและก่อสร้างจากช่างที่มีฝีมือทั่วโลกกว่า 3,000 คน และ 38 บริษัทเลยทีเดียวค่า โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 1996 และเสร็จในปี 2007 วัสดุที่ใช้ก็มีทั้งหินอ่อน เซรามิก คริสตัลและทองคำ เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามได้อย่างหลากหลายและลงตัวเป็นที่สุด เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ทุกคน และยังเป็นสุสานหลวงฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan อดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเป็นผู้สร้างมัสยิดแห่งนี้ไว้ก่อนจะสวรรคตด้วยค่ะ

ที่นี่สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน ห้องโถงละหมาดหลักสามารถรองรับได้ประมาณ 7,000 คน และถูกจัดให้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับที่ 25 ของโลก โดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชมมัสยิด Sheikh Zayed แห่งนี้ถึง 4.7 ล้านคนเลยจ้า แต่งดงามขนาดนี้ก็ไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็อยาก จัดเป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเล้ยยยย

 

มาดูไบต้องไปดูหมู่เกาะต้นปาล์ม The Palm Islands

เมื่อได้มาเที่ยวหมู่เกาะต้นปาล์มนี่ไม่รู้จะอุทานเป็นภาษาอะไรดี คือทั้งสวย ทั้งอลังการ จนเรียกกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลกเลยล่ะค่า! สุดยอด

ที่นี่เป็นเกาะเทียมกลางทะเลที่สร้างเป็นรูปต้นปาล์ม ขนาดพื้นที่ราว 25 ตารางกิโลเมตร มีแนวของใบปาล์ม 17 แนว และถูกจัดเป็นเมืองสุดหรู มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหารระดับภัตตาคาร สวนน้ำขนาดใหญ่ สปาชั้นเยี่ยมของโลก ห้างสรรพสินค้าที่รวมทุกแบรนด์ระดับโลกไว้ บ้านสไตล์วิลล่าชายทะเล รีสอร์ทและโรงแรมระดับ 5 ดาว และความสุดจะอลังปังเวอร์ก็คือ มีท่าจอดเรือยอชต์สำหรับผู้พักอาศัยในโครงการนี้ด้วยค่าาา โดยทั้งหมดนี้ได้เชื่อมต่อกับพื้นดินของดูไบ ผ่านสะพานและรถไฟลอยฟ้ายาวประมาณ 5.4 กิโลเมตร เดินทางสะดวกหายห่วงจ้า

ผู้ที่ริเริ่มโครงการนี้ก็คือนายกรัฐมนตรี หรือเจ้าผู้ครองนครดูไบ Shiekh Mohammed bin Rashid Al Maktoum คนเดิมกับเจ้าของตึกเบิร์จคาลิฟานั่นเอง โครงการมีทั้งหมด 3 เกาะค่ะ ได้แก่ The Palm Jumeirah , The Palm Deira และ The Palm Jebel Ali ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 7 ปี เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 โดยบริษัท Jan de Nul Group และบริษัท Van Oord จากเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ ได้ใช้ทรายจำนวน 92,234,000 ลูกบาศก์เมตร ถมจนเกิดเป็นพื้นที่ดินเหนือน้ำทะเลและเกิดเป็นเกาะไฮโซนี้ ด้วยเงินประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

วัตถุประสงค์ก็เพื่อส่งเสริมธรรมชาติ ทั้งการสร้างแนวปะการังและแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในทะเล ถือเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไปในตัวด้วยค่ะ เพราะท่านนายกรัฐมนตรีรู้ว่า น้ำมันนั้นจะไม่คงอยู่ตลอดไป จึงสร้างแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกขึ้นมา เพื่อที่จะสามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องรอเงินจากการขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว

 

มาดูไบต้องแวะเยี่ยมชมความหรูหราหากได้มาเที่ยวดูไบ

ส่วนขาช้อปนั้นคู่ควรกับตลาดทองคำ (Dubai Gold Market) เป็นที่สุด เพราะเป็นตลาดชื่อดังแหล่งรวมสร้อยคอทองคำ พร้อบกับไอเทมแต่งสวยของสาว ๆ และหนุ่ม ๆ เครื่องประดับจิวเวลรี่ จะรออะไรค่ะเตรียมเงินให้พร้อมแล้วช้อปกลับไทยกันโล้ด แนะนำจัดสรรเงินเที่ยวให้ดี ๆ เพราะยังมีพิกัดห้างสรรพสินค้า มอลล์ ออฟ ดิ เอมิเรตส์ (Mall of the Emirates) ห้างใหญ่สุดหรูให้เลือกสินค้าแบรนด์เนม รอคุณอยู่นะ

 

ในที่สุดนี้คงต้องบอกว่าการเที่ยวตะวันออกกลางไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะเป็นการเที่ยวที่เปิดมุมมองใหม่ให้ชีวิต โดยเฉพาะดูไบเมืองที่หรูหราอลังการด้วยรถไฟโมโรเรล (Monorail) ชมเมืองหมู่เกาะต้นปาล์ม หรือ The Palm Islands Project เกาะเทียมที่ก่อสร้างขึ้นโดยมนุษย์ล้วน ๆ ที่บอกเลยว่าคุ้มค่าคู่ควรกับการมาเที่ยวเป็นอย่างมากเลยค่าา  

ทริปแนะนำ
EUSW-20 สวิตเซอร์แลนด์...ของแทร่ 8วัน 5คืน

ราคาเริ่มต้น 99,900 บาท

ก.ค. 2567 - 28 ต.ค. 2567

รอบการเดินทาง 1 ไฟล์ท

ASCN -219

ราคาเริ่มต้น 35,900 บาท

ก.ย. 2567 - 29 ต.ค. 2567

รอบการเดินทาง 1 ไฟล์ท

ASCN-177 ฉงฉิ่ง อู่หลง เฉิงตู หุบเขาสี่ดรุณี (เข้าฉงชิ่ง-ออกเฉิงตู) 7 วัน 5 คืน

ราคาเริ่มต้น 24,990 บาท

ก.ค. 2567 - 04 พ.ย. 2567

รอบการเดินทาง 3 ไฟล์ท

ASJP-177 Fishing Village OSAKA โอซาก้า เกียวโต อิเนะ อามาโนะฮาชิดาเตะ 5วัน 3คืน

ราคาเริ่มต้น 25,888 บาท

พ.ค. 2567 - 28 ต.ค. 2567

รอบการเดินทาง 2 ไฟล์ท

ASCN-217 เฉิงตู จิ่วจ้ายโกว หวงหลง ดูหมีแพนด้า 6วัน 4คืน

ราคาเริ่มต้น 23,900 บาท

ก.ย. 2567 - 25 พ.ย. 2567

รอบการเดินทาง 9 ไฟล์ท

ASTP-83 ไต้หวัน เถาหยวน เจียอี้ อาลีซาน ผิงซี ไทเป บรูราโน่แห่งไต้หวัน 5 วัน 4 คืน

ราคาเริ่มต้น 20,990 บาท

ส.ค. 2567 - 23 ต.ค. 2567

รอบการเดินทาง 1 ไฟล์ท

บทความแนะนำ

บางแสนผุดไอเดีย ‘ทุ่นลอยน้ำ’ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ชูท่องเที่ยวสร้างเศรษฐกิจในชุมชน
จีนอนุมัติยาต้านไวรัสตัวแรก สู้ไวรัสโคโรนา 2019
เที่ยวกรีซ อารยธรรมเก่าแก่ ธรรมชาติสวย ไปกี่ทีก็หลงรัก
รวมฮิต 5 สถานที่ท่องเที่ยวยุโรปที่ต้องไปในปี 2024