“Green Season” คือ การท่องเที่ยวในช่วง Low Season ที่จะไม่ค่อยมีคนนิยมออกมาท่องเที่ยวกัน เพราะกลัวเปียก กลัวเฉอะแฉะ แล้วจะทำให้การท่องเที่ยวของคุณอาจไม่มีความสุข ไม่สะดวก แต่รู้กันไหม มนต์เสน่ห์ของช่วงหน้าฝนนี่แหละ คือสวรรค์ของการท่องเที่ยวในอีกแบบ ที่คุณต้องมาลองสัมผัส
จากสถิติการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวออกเดินทางไปเที่ยวน้อยที่สุด เพราะหลายคนมักจะไม่ชอบกับความเฉอะแฉะของสายฝน และกลัวการเดินทางที่ยากลำบาก นั่นจึงทำให้นักท่องเที่ยวเลือกที่จะไม่ออกเดินทางไปเที่ยวหน้าฝน แต่รู้หรือไม่ว่าการออกไปผจญภัยในหน้าฝนนั้นจะได้รับสิ่งที่ไม่เหมือนฤดูกาลอื่น ๆ อีกทั้งยังมีข้อดีอื่น ๆ มากมาย วันนี้#WorldAsiaTrips จะพาทุกคนมาดูกันว่าเหตุใดจึงไม่ควรพลาดที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝน ไปดูกันเลยจ้าา
1.ทะเลหมอก
นักท่องเที่ยวบางคนเลือกที่จะไปตามหาทะเลหมอกกันในช่วงหน้าหนาว แต่รู้ไหม อันที่จริงแล้วหน้าฝนนี่แหละคือ ความสวยงามที่สุดของทะเลหมอกที่หาชมกันไม่ได้ในช่วงหน้าหนาว โดยเฉพาะหลังฝนตกจะมีทะเลหมอกเยอะมากเป็นพิเศษ และถือเป็นเสน่ห์ในช่วงกรีนซีซั่นเลยทีเดียว ความต่างของทะเลหมอกหน้าฝน โดยเฉพาะหลังฝนตกจะมีทะเลหมอกเยอะมากเป็นพิเศษ และถือเป็นเสน่ห์ในช่วงกรีนซีซั่นเลยทีเดียว อาจจะเปียกปรอยกันนิดๆ แต่ได้รับชมหมอกแบบแน่นๆ ก็ถือว่าคุ้มนะ กับการได้มาชมความสวยงามในหน้าฝน
2. ทัศนียภาพของหุบเขาสีเขียว
ไม่บอกก็รู้ว่า...หน้าฝนกับสีเขียวของต้นไม้เป็นของคู่กัน เมื่อฝนมา นั่นคือเวลาของธรรมชาติ ที่มองไปทางไหนก็จะพบเจอแต่สีเขียวๆ ไม่ว่าจะเที่ยวแบบชิลล์ๆ นั่งดูทุ่งนาข้าวสีเขียวขจี เดินเข้าป่าสูดอากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะบนภูเขาที่เมื่อถึงหน้าฝนเมื่อไหร่ ภูเขา หุบเขาต่าง ๆ จะเขียวขจี มองไปทางไหนหัวใจก็ชุ่มฉ่ำกันให้ชุ่มปอด ที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลาย คลายเครียด กันแบบสุดๆ ยิ่งทางภาคเหนือที่มีการทำนาข้าวขั้นบันได ก็จะมีทิวทัศน์ของนาข้าวสีเขียวหลดหลั่นกันลงไปตามไหล่เขาอย่างงดงาม เป็นภาพที่สามารถชมได้เฉพาะในหน้าฝนเท่านั้น
3.อากาศสดชื่น
เมื่อมี "น้ำ" ธรรมชาติป่าเขาก็จะอุดมสมบูรณ์ ผลิดอกออกผลกันอย่างเต็มที่ ใบไม้ใบหญ้าก็จะเขียวขจี ต้นไม้ขึ้นอย่างหนาตาทั้งบนภูเขาและในป่าใหญ่ ส่งผลให้อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะหลังฝนตกจะมีความสดชื่นเป็นพิเศษ กลิ่นของใบไม้ ดิน สายน้ำ จะหอมสดชื่นกว่าฤดูกาลไหน ๆ อากาศที่เย็นสบายทำให้ไม่ต้องรำคาญใจเวลาที่อากาศร้อนจนเนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะอีกด้วย นอกจากจะสบายตัวแล้ว ยังจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
4. ดอกไม้ป่าแบ่งบาน
เข้าหน้าฝน นั่นคือเวลาเบ่งบานของดอกไม้สีสันสวยงาม ที่ออกดอกออกผลในทุ่งหญ้าสีเขียว หลากหลายพันธุ์ ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าที่แสนสบาย และอากาศสุดแสนจะบริสุทธิ์ เมื่อได้รับน้ำอย่างเต็มที่ และอากาศที่พอเหมาะ ดอกไม้ต่าง ๆ ที่อยู่ในป่าก็จะโผล่หน้าออกมาอวดโฉมให้เราได้ชมกัน นั่นก็คือ ดอกกระเจียว ที่จะเริ่มบานตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
5. เส้นทางธรรมชาติที่เงียบสงบ
ด้วยเหตุที่ไม่ค่อยมีใครอยากมาท้าทายสายฝน จึงเป็นเหตุให้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เงียบสงบ ไม่ต้องไปแย่งกันกิน แย่งกันหายใจ แย่งกันชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทางที่สองข้างทางก็เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียว ชมวิวเพลินๆ เปิดกระจกรับลมเย็นๆ สัมผัสบรรยากาศสุดแสนบริสุทธิ์ เที่ยวสนุกๆ ไม่ร้อน ไม่เหนื่อย แถมได้มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นได้อีกด้วย สามารถถ่ายรูปได้อย่างสบายใจ
6. ล่องแก่ง...กิจกรรมสุดมันส์
ถ้าไม่ใช่หน้าฝนก็สามารถทำกิจกรรมล่องแก่งได้ แต่!..มันจะไม่เร้าใจมากพอ เพราะในลำธารและแก่งต่าง ๆ มีปริมาณน้ำน้อยเกินกว่าที่จะทำให้เรือไหลไปตามลำน้ำได้อย่างสนุกสนาน เพราะฉะนั้นหน้าฝนจึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะไปพิชิตแก่งต่างๆ
7.ที่พักไม่แพง ไม่ต้องแย่งใคร
ฤดูฝนนี้ถือว่าเป็น Low Season คนไม่ค่อยจะออกไปเที่ยวกัน ทำให้พวกที่พักส่วนใหญ่จะปรับราคาลงบางที่ลดมากถึง 50% หรือบ้างก็1แถม1 ช่วงนี้แหละโอกาสดี เที่ยวแบบประหยัด แถมไม่ต้องไปแย่งกันเที่ยวอีกด้วย
8. เพราะหยุดเที่ยวไม่ได้
ข้อสุดท้ายนี้อาจเป็นเหตุผลหลักของใครหลายๆคนแน่นอน เพราะหยุดเที่ยวไม่ได้ไง มันต้องเที่ยว ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก เทศกาล ลางาน ลาป่วย ก็ขอให้ได้ออกไปเที่ยวเหอะ อิอิ