สำหรับใครที่เป็นคอหนังแล้วเจอสถานที่ท่องเที่ยวสุดเก๋ในนั้นแล้วคิดอยากเข้าไปในนั้นกันบ้าง ยิ่งใครที่เป็นสายท่องเที่ยวต้องยิ่งห้ามพลาดเป็นอันขาด วันนี้ทาง #WorldAsiaTrips จะพาทุกคนไปตะลุย 6 สถานที่ท่องเที่ยวตามรอยหนังดังในเอเชีย และสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนั้นกลายเป็นเรื่องสุดโปรดของคุณนั่นก็คือ ฉากและวิวสวยๆในการถ่ายทำภาพยนตร์นั่นเอง งานนี้แพ็คกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปตะลุยกันเลยย..
นาขั้นบันไดบานาเว ซึ่งเกิดจากการแกะสลักภูเขาของชนเผ่า Ifugao เมื่อสองพันปีก่อนเพื่อใช้ในการทำฟาร์ม ซึ่งเป็นที่น่าทึ่งว่าในสองพันกว่าปีก่อนนั้นยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย ชนเผ่าเหล่านี้กลับแกะสลักภูเขาทั้งใบได้อย่างสวยงาม และปัจจุบันมันได้กลายเป็นที่ปลูกข้าวของชาวนาที่มีลักษณะเป็นขั้นบันได ก่อให้เกิดภาพที่สวยงามและยังเหมาะแก่การมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว และยังเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฉากสุดท้าย ของหนังเรื่อง Avengers Infinity War ที่หลังจากดีดนิ้วจนคนหายไปครึ่งโลกแล้ว โดย Thanos ไปอยู่ที่ “นาขั้นบันไดบานาเว” นี่เอง
ด้วยความสวยงามของรากไม้ที่ปกคลุมและเกาะเกี่ยวตัว ปราสาทตาพรหม เพื่อไม่ให้พังทลายลงมา จนทำให้ที่นี่กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ได้อย่างลงตัว และยังส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในความงามของแปลกของธรรมชาติ ต้องเดินทางไกลมาสัมผัสกับความงามกันถึงถิ่นอย่างใกล้ชิด ด้วยความงามที่เกิดขึ้นเองอย่างไม่ได้ตั้งใจแห่งนี้ จากรากไม้ที่ชอนไชจากพื้นดิน ที่ยังสามารรถช่วยพยุง ปราสาทตาพรหม ไว้ แม้จะมีลำต้นที่ความสูงเสียดฟ้าประกอบกับบรรยากาศน่าพิศวง ที่มาพร้อม ๆ กับความอัศจรรย์ที่เงียบสงบ และปราสาทแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Tomb Raider นำแสดงโดยแองเจลินา โจลีย์
ขุนเขาอวตาร มีชื่อเรียกขานในภาษาจีนว่า“เทียนจื่อซาน” หรือ “ขุนเขาจักรพรรดิ” ทั้งนี้มีข้อมูลน่าสนใจระบุว่า เดิมกลุ่มขุนเขาชุดนี้มีชื่อเรียกขานกันว่า “ภูผาแห่งฟากฟ้าแดนใต้” (Southern Sky Column) เพราะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลหูหนาน ขณะที่ในวิดีโอแนะนำการท่องเที่ยวของเมืองจางเจียเจี้ยที่“พิพิธภัณฑ์ภาพวาดทราย”(ตัวเมืองจางเจียเจี้ย) ได้กล่าวถึงขุนเขาแห่งนี้ว่ามีฉายาเรียกขานเปรียบดัง(ขุนเขา)“กระบี่หยดฟ้า” อย่างไรก็ดีหลังจากที่ขุนเขาจักรพรรดิได้ถูกนำไปเป็นฉากสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง “อวตาร”(Avatar)จากฝีมือการกำกับของ“เจมส์ คาเมรอน”พ่อมดแห่งวงการฟิล์ม โดยหนังอวตารได้นำภาพของขุนเขาจักรพรรดิ มาสร้างสรรค์ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิก(CG) ใส่จินตนาการเสริมแต่งเข้าไป ให้กลายเป็นขุนเขาลอยฟ้าแห่งดวงดาวแพนดอร่าอันน่าทึ่ง
“อุทยานหลุมฟ้า สะพานสวรรค์” (Wulong Karst Geological Park หรือ Three Natural Bridges) แหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งจะได้รับการรับรองให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” ในปี 2007 จากยูเนสโก้ (UNESCO) เป็นเครื่องมือการันตีเรื่องความสวยงามของที่นี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอุทยานหลุมฟ้าสะพานสวรรค์ เกิดขึ้นจากการยุบตัวของเปลือกโลก เกิดเป็นบ่อลึกขนาด 300 – 500 เมตร และยังมีบางส่วนที่เป็นลักษณะโพรงทะลุที่ดูคล้านกับสะพาน เชื่อมต่อภูเขาทั้ง 3 ลูกไว้ด้วยกัน จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า สะพานสวรรค์ ใครที่มาที่นี่ต้องอย่าลืมแวะถ่ายรูป โรงเตี๊ยม (Tianfu Post House) ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งขอบอกว่าวิวนี้สุดยอดดีงามต่อสายตาจริงๆ จากความสวยงามที่ใครได้เห็นก็ต้องตะลึง จนไปเตะตาทีมงานภาพยนต์ฮอลลีวู๊ด อย่าง Transformer เข้า จึงได้ปรากฎเป็นฉากในหนัง Transformer 4 ถ้าใครเคยชมหนังเรื่องนี้มาก่อน แล้วได้มาเห็นบรรยากาศของที่นี่ ก็พอจะได้เห็นกันบ้างแล้วว่า และมีซีนหนึ่งเกี่ยวกับไดโนบอทและออฟติมัสไพรม์
ที่ฉากวิวทิวทัศน์ข้างหลังนั้น เป็นโลเคชั่นที่มีอยู่จริง
เป็นหนังน่าดูที่ทำให้เราอยากออกเที่ยวญี่ปุ่นเปลี่ยนอารมณ์จากหนังฮีโร่มาดูอะไรน่ารัก ๆ ให้มันชุ่มชื่นหัวใจกันบ้างกับ “Detective Pikachu” หนังดัดแปลงจากเกมและตัวละครญี่ปุ่นสุดน่ารักที่มีตัวเอกเป็น “เจ้าพิคาชู” สุดน่ารักจากโปเกม่อน แต่แม้ว่า Detective Pikachu จะถ่ายทำในอเมริกา และแคนาดาเป็นหลัก แต่กลับไม่สามารถ กลบกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นที่เป็นจุดกำเนิดของโปเกม่อนไปได้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้หวนนึกไปถึงเมือง Yokohama ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพิคาชู เมืองที่คนรักโปเกม่อนโดยเฉพาะพิคาชูรู้จักกันดี และจะต้องไปเยือนให้ได้ เพราะในเมือง จะเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของพิคาชู มีส่วนจัดแสดงพิคาชู แถมยังมีขบวนพาเหรดพิคาชูน่ารักๆ ออกมาเดินและเต้นโชว์ตัวให้สาวกใจละลายกันไปเลย
Fanday แฟนกันแค่วันเดียว หนังไทยที่เป็นหนัง 100 ล้านจากเรื่องจากค่าย GDH ที่มีการใช้เกาะ Hokkaido ในการถ่ายทำแทบทั้งเรื่อง และไม่ว่าจะฉากไหน ก็เห็นถึงความงามของ Hokkaido ดินแดนโรแมนติคทางตอนเหนือที่ยังเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เป็นเกาะทางเหนือของญี่ปุ่นที่เป็นอาณาบริเวณใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดสู่ภายนอกอย่างเต็มที่เมื่อ 140 ปีที่แล้ว ทำให้อาจจะไม่มีความเก่าแก่ทางวัฒนธรรมเหมือนที่อื่นๆของญี่ปุ่น แต่ที่นี่จะมีชื่อเสียงด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ยังคงสภาพดั้งเดิมอยู่ รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสมากกว่าที่อื่นๆของญี่ปุ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะฮอกไกโด ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แวดล้อมไปด้วทะเลสามารถผลิตอาหารได้มากมายทำให้ฮอกไกโดถูกเรียกว่า “ขุมสมบัติของอาหาร “